วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ใบงานที่ 3 เรื่องบริการในระบบอินเตอร์เน็ต


1.เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web : WWW) คือบริการค้นหาและแสดงข้อมูลแบบมัลติมีเดีย บนอินเทอร์เน็ตทุกประเภท ซึ่งข้อมูลและสารสนเทศอาจจัดอยู่ในรูปแบบของข้อความ รูปภาพ หรือ เสียงก็ได้ ข้อดีของบริการประเภทนี้คือ สามารถเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจหน้าอื่น หรือเว็บไซด์อื่นได้ง่าย เพราะใช้วิธีการของไฮเปอร์เท็กซ์ (Hypertext) โดยมีการทำงานแบบไคลเอนท์/เซิร์ฟเวอร์ (Client/Server) ซึ่งผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูล จากเครื่องที่ให้บริการซึ่งเรียกว่าเว็บเซิร์ฟเวอร์ โดยอาศัยโปรแกรม ที่ใช้ดูข้อมูลเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ซึ่งผลที่ได้จะมีการแสดงเป็นไฮเปอร์เท็กซ์ ซึ่งในปัจจุบันมีการผนวกรูปภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว และสามารถเชื่อมโยงไปยังเอกสารหรือข้อมูลอื่น ๆ ได้โดยตรงตัวอย่างเช่น http://www.yahoo.com สามารถค้นหาและเชื่อมโยงข้อมูลไปยังเรื่องราวต่างๆ เช่น การศึกษาการท่องเที่ยว โรงแรมต่าง ๆ การรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ เป็นต้น


2.จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail) หรือนิยมเรียกกันทั่วไปว่า อีเมล์” (E-mail) เป็นรูปแบบการติดต่อสื่อสาร ระหว่างกัน และกันบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถส่งข้อความ ไปยังสมาชิกที่ติดต่อด้วย โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที และสามารถแนบไฟล์ข้อมูลไปพร้อมกับจดหมายได้อีกด้วย การส่งจดหมายในลักษณะนี้ จะต้องมีที่อยู่เหมือนกับการส่งจดหมายปกติ แต่ที่ของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เราเรียกว่า E-mail Address
การโอนย้ายข้อมูล (FTP : File Transfer Protocol) เป็นรูปแบบการติดต่อสื่อสารข้อมูล บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อีกรูปแบบหนึ่ง ใช้สำหรับการโอนย้ายข้อมูลระหว่างผู้ใช้โปรแกรม FTP กับ FTP Server การโอนย้ายไฟล์จาก FTP Server มายังเครื่องของผู้ใช้ เรียกว่า ดาวน์โหลด (Download) และการโอนย้ายไฟล์ จากเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ไปยังไปยัง FTP Server เรียกว่า อัพโหลด




3.การสืบค้นข้อมูล (Search Engine) คือ บริการที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต โดยพิมพ์ข้อความที่ต้องการสืบค้น เข้าไป โปรแกรมจะทำการค้นหาข้อมูลที่ต้องการ ให้ภายในเวลาไม่กี่นาที โปรแกรมประเภทนี้เราเรียกว่าSearch Engines เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่สามารถจำชื่อเว็บไซด์ บางเว็บได้ ก็สามารถใช้วิธีการสืบค้นข้อมูล ในลักษณะนี้ได้ เว็บไซด์ที่ทำหน้าที่เป็น Search Engines มีอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น google.com , yahoo.com ,sanook.com ฯลฯ เป็นต้น
การสนทนากับผู้อื่นบนอินเทอร์เน็ต จะคล้ายกับการใช้โทรศัพท์แต่แตกต่างกันที่ เป็นการสื่อสาร ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะใช้ไมโครโฟน และลำโพงที่ต่ออยู่กับคอมพิวเตอร์ในการสนทนา
กระดานข่าวอิเล็กทรอนิกส์ (News Group or Use Net) เป็นบริการกระดานข่าวอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และแสดงความคิดเห็นลงไปบริเวณกระดานข่าวได้ มีการแบ่งกลุ่มผู้ใช้ออกเป็นกลุ่ม ๆ ซึ่งแต่ละกลุ่มจะสนใจเรื่องราวที่แตกต่างกันไป เช่นการศึกษา การท่องเที่ยว การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม การเกษตร และอุตสาหกรรม เป็นต้น
การสื่อสารด้วยข้อความ IRC (Internet Relay Chat) เป็นการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น โดยการพิมพ์ข้อความโต้ตอบกัน ซึ่งจำนวนผู้ร่วมสนทนาอาจมีหลายคนในเวลาเดียวกัน ทุกคนจะเห็นข้อความ ที่แต่ละคนพิมพ์เหมือนกับว่ากำลังนั่งสนทนาอยู่ในห้องเดียวกัน โปรแกรมที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารได้แก่โปรแกรม mIRC โปรแกรม PIRCH และโปรแกรม Comic Chat นอกจากโปรแกรม IRC แล้ว ในปัจจุบันนี้ภายในเว็บไซต์ ยังเปิดให้บริการห้องสนทนาผ่านทางโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ได้อีกด้วย

วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2559

วิธีใช้ Google Chrome เบื้องต้น

คีย์ลัด บน Google Chrome



ก่อนที่จะไปถึงเรื่อง ส่วนเสริม หรือฟังก์ชั่นเด็ดๆของ Google Chrome นั้น เรามาเริ่มกันที่เรื่องง่ายๆกันก่อน เริ่มกันที่ คีย์ลัด บน Google Chrome เชื่อได้ว่า หลายๆท่านอาจจะเคยใช้ คีย์ลัด ที่เป็นของระบบปฏิบัติการ Windows มาบ้าง อย่างน้อยก็ Copy Paste (Ctrl + C , Ctrl + V) ที่น่าจะถูกใช้บ่อยสุด ซึ่งแน่นอนครับว่า มันช่วยในเรื่องของความเร็วในการใช้งาน และ บน Google Chrome ก็เช่นกัน หากเราสามารถใช้คีย์ลัดเหล่านี้ได้คล่อง ก็น่าจะช่วยให้เราใช้งาน Google Chrome ได้ดียิ่งขึ้นแน่นอน 

Ctrl + N : ใช้สำหรับ เปิดหน้าต่าง Google Chrome เพิ่มอีกหนึ่งอัน (Open New Window)
Ctrl + T : ใช้สำหรับ เปิด Tab ใหม่ ในหน้าต่างเดิม (Open New Tab)
Ctrl + Shift + N : เปิด หน้าต่าง Google Chrome เพิ่ม ในโหมด Incognito 
Ctrl + Shift + T : เปิด Tab ที่เคยปิดไปล่าสุด สูงสุด 10 Tab
ALT + F หรือ ALT + E : เปิดเมนูบาร์ Google Chrome
Ctrl + Shift + B : เปิด / ปิด แถบ Bookmark
Ctrl + H : เปิดดู History 
Ctrl + J : เปิดดูรายการดาวน์โหลด
Shift + ESC : เปิด Google Chrome Task Manager เพื่อดูว่าหน้าไหนที่ทำให้ระบบช้า และเลือกปิดได้

เปลี่ยนไอคอน Google Chrome เป็น สีทอง (Gold Version)




สำหรับฟังก์ชั่นนี้ ไม่น่าจะช่วยเรื่องการใช้งานสักเท่าไหร่ เพียงแต่ อาจจะใช้เพิ่มความหรูให้กับผู้ใช้ได้บ้าง หรือจะเอาไว้โม้เพื่อนว่าเป็นเวอร์ชั่นพิเศษ Gold Edition ก็สามารถทำได้ ซึ่งจริงๆแล้ว เทคนิคนี้ เป็นเพียงแค่การเปลี่ยน Icon เป็นสีทอง ซึ่งเป็นไอค่อนที่ทาง Google ได้แนบมาไว้ให้อยู่แล้วครับ ซึ่งวิธีเปลี่ยนก็ง่ายๆ เลย เพียงแค่คลิกขวาที่ Icon Google Chrome แล้วเลือก Property หลังจากนั้นให้เลือก Change Icon ก็จะเห็น Icon ของ Google Chrome ที่เป็นสีทองมาให้เลือกกันแล้วล่ะ


Favicon บน แถบ Bookmark




เมื่อเราทำการ Bookmark หน้าเว็บใดๆก็ตาม หน้าที่เราดำเนินการล่าสุด จะถูกเพิ่มลงในแถบ Bookmark ซึ่งจะมี Icon ของเว็บเพจนั้นๆ และตามมาด้วยข้อความของเว็บไซต์ดังกล่าว ซึ่งถ้าหากเราต้องการที่จะทำให้ ข้อความเหล่านั้นหายไป เหลือเพียงแค่ Icon ของเว็บไซต์นั้นๆ เพื่อประหยัดเนื้อที่ และยังสามารถ เพิ่มเว็บไซต์ในแถบ Bookmark ให้มีจำนวนมากยิ่งขึ้นได้ก็ทำวิธีนี้กันเลย 

ซึ่งวิธีทำนั้นก็ไม่ยากเลยครับ ก่อนอื่น ต้องมั่นใจว่า แถบ Bookmark ได้เปิดไว้ หรือถ้าหากยังไม่ได้เปิด ก็ลองใช้คีย์ลัดที่เราเพิ่งได้อ่านผ่านมาก่อนหน้าดูได้เลย (Ctrl + Shift + B เพื่อเปิดแถบ Bookmark) หลังจากนั้น หากเรามี Bookmark ไว้อยู่แล้ว ให้ทำการคลิกขวาที่ Bookmark ที่เราต้องการจะลบข้อความออก แล้วเลือก Edit เมื่อกดแล้วเราจะเห็นหน้าต่างใหม่เพิ่มขึ้นมา โดยจะมีช่อง Name อยู่ ให้ทำการลบข้อความที่อยู่ในช่อง Name ออกให้หมด แล้วกด Save เพียงเท่านี้ แถบ Bookmark ดังกล่าว ก็จะเหลือแค่ Icon อย่างเดียวเท่านั้น 

ตั้งค่าหน้า Home ได้ตามใจ




บราวซ์เซอร์ทั่วไป อาจจะตั้งหน้า Home หรือหน้าแรก เมื่อเปิดบราวเซอร์ขึ้นมาได้แค่เพียงเว็บไซต์เดียว แต่ถ้าหากเรามีหน้าเว็บที่อยากตั้งเป็นหน้า Home มากกว่าหนึ่งล่ะ Google Chrome ช่วยคุณได้ ซึ่ง บน Google Chrome นั้นสามารถเพิ่มหน้า Home ได้มากกว่าหนึ่งหน้า ซึ่งเมื่อคุณเปิด บราวเซอร์ขึ้นมา ทุกเว็บที่คุณได้ต้ังค่าเอาไว้ จะถูกเปิดมาพร้อมๆกันในครั้งเดียว (แยก Tab) ซึ่งวิธีทำก็ไม่ยากเลยครับ เพียงแค่เราไปที่เมนู แล้วเลือก Setting หลังจากนั้นให้คลิกเลือกที่ Open a specific page or set of pages และเลือก Setpage ซึ่งในหน้า Setpage นี่เอง ที่เราสามารถเพิ่มเว็บไซต์ต่างๆได้ตามใจชอบ 

แกล้งเพื่อนของคุณด้วย Fake Edit




นี่เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่จะแกล้งเพื่อนของคุณด้วยวิธีง่ายๆ ถ้าหากคุณสามารถแก้ไขข้อความต่างๆบนเว็บไซต์ชื่อดัง และ เซฟ Screenshot ไปให้เพื่อนดูได้ คิดว่าน่าสนุกขนาดไหน ยกตัวอย่างจากภาพด้านบน เป็นหน้าเว็บที่ถูกแก้ไขหัวข้อของข่าวเป็น บริษัท AMD ซื้อ Intel ด้วยราคา 35 ล้านเหรียญ ซึ่งจะเห็นว่า URL นั้นยังคงเป็น URL เดิม ไม่ต้องเหนื่อยมานั่งตัดต่อด้วย Photoshop อีกด้วย วิธีทำก็ง่ายๆเลยครับ เพียงแค่เราคลิ๊กขวาตรงส่วนไหนก็ตามที่เราอยากแก้ไข แล้วเลือก Inspect Element หลังจากนั้น Google Chrome จะเปิดหน้าต่างสำหรับ Developer ขึ้นมา และมาร์คจุดที่เราเลือกเมื่อสักครู่เอาไว้ ทีนี้ เราแค่ดับเบิ้ลคลิ๊กในส่วนที่อยากจะแก้ แล้วก็พิมข้อความไปได้ตามใจชอบเลยล่ะ



ความคุม Google Chrome ให้ได้ดั่งใจ




สำหรับ Google Chrome นั้นยังมีหน้าพิเศษ ที่ให้เราสามารถเปิดปิด ความสามารถของ Google Chrome ได้อีกด้วย ซึ่งหากเราลองพิมคำว่า chrome://flags/ ลงไปในช่อง Address ตัวบราวเซอร์เอง ก็จะพามายังหน้า ที่ให้คุณเลือก เปิดปิดฟังก์ชั่นต่างๆได้ตามใจชอบ แต่การเปิดปิด ฟังก์ชั่นต่างๆนั้นอาจจะต้องระวังกันสักนิดนึงนะครับเพราะอาจจะทำให้การเข้าเว็บไซต์ได้ไม่สมบูรณ์เหมือนเดิมนั่นเอง หรือจะลองพิมคำว่า chrome://memory เพื่อดูการใช้งาน Memory ของเครื่อง ว่าใช้ไปมากน้อยแค่ไหน และ chrome://about ในหน้านี้ จะรวมคำสั่งและคีย์ลัดต่างๆเพิ่มเติมอีกมากมาย 

สร้าง Account ใหม่ สำหรับผู้ใช้งาน Google Chrome




หากคุณใช้งาน Google Chrome ร่วมกับคนอื่น อาจจะเจอปัญหาในเรื่องของ History ปนกับคนอื่น Bookmark หรือ แม้แต่พาสเวิร์ดที่เคยกรอกบนเว็บไซต์ต่างๆ แต่บน Google Chrome คุณสามารถแยก Account การใช้งานได้ โดยข้อมูลต่างๆจะถูกเก็บที่ Account นั้นๆ นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง User หรือ สลับการใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย เพียงแค่กด Ctrl + Shift + M ก็จะพบกับหน้าต่างสำหรับสลับ User หรือ สร้าง User ใหม่ทันที 








วันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ใบงานที่ 1 เรื่อง Internet And Web Browser
อินเทอร์เน็ต(Internet) คือ เครือข่ายนานาชาติ ที่เกิดจากเครือข่ายขนาดเล็กมากมาย รวมเป็นเครือข่ายเดียวทั้งโลก หรือเครือข่ายสื่อสาร ซึ่งเชื่อมโยงระหว่างคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ที่ต้องการเข้ามาในเครือข่าย สำหรับคำว่าinternet หากแยกศัพท์จะได้มา 2 คำ คือ คำว่า Inter และคำว่า net ซึ่ง Inter หมายถึงระหว่าง หรือท่ามกลาง และคำว่าNet มาจากคำว่า Network หรือเครือข่าย เมื่อนำความหมายของทั้ง 2 คำมารวมกัน จึงแปลว่า การเชื่อมต่อกันระหว่างเครือข่าย IP (Internet protocal) Address คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อกันใน internet ต้องมี IP ประจำเครื่อง ซึ่งIP นี้มีผู้รับผิดชอบคือ IANA (Internet assigned number authority) ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางที่ควบคุมดูแล IPV4 ทั่วโลก เป็น Public address ที่ไม่ซ้ำกันเลยในโลกใบนี้ การดูแลจะแยกออกไปตามภูมิภาคต่าง ๆ สำหรับทวีปเอเชียคือAPNIC (Asia pacific network information center) แต่การขอ IP address ตรง ๆ จาก APNIC ดูจะไม่เหมาะนัก เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ เชื่อมต่อด้วย Router ซึ่งทำหน้าที่บอกเส้นทาง ถ้าท่านมีเครือข่ายของตนเองที่ต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็ควรขอ IP address จาก ISP (Internet Service Provider) เพื่อขอเชื่อมต่อเครือข่ายผ่าน ISP และผู้ให้บริการก็จะคิดค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่อตามความเร็วที่ท่านต้องการ เรียกว่า Bandwidth เช่น 2Mbps แต่ถ้าท่านอยู่ตามบ้าน และใช้สายโทรศัพท์พื้นฐาน ก็จะได้ความเร็วในปัจจุบันไม่เกิน 56 Kbps ซึ่งเป็น speedของ MODEM ในปัจจุบัน
Web browser คือ
เว็บเบราว์เซอร์ (web browser) เบราว์เซอร์ หรือ โปรแกรมดูเว็บ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบกับข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเวบที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะ เช่น ภาษาเอชทีเอ็มแอล (html) ที่จัดเก็บไว้ที่ระบบบริการเว็บหรือเว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือระบบคลังข้อมูลอื่น ๆ โดยโปรแกรมค้นดูเว็บเปรียบเสมือนเครื่องมือในการติดต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเวิลด์ไวด์เว็บ
ตัวอย่าง 5 อย่าง
    Internet Explorer

     อินเทอร์เน็ต (อังกฤษ: Internet) หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ที่มีการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายหลาย ๆ เครือข่ายทั่วโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า โพรโทคอล (protocol) ผู้ใช้เครือข่ายนี้สามารถสื่อสารถึงกันได้ในหลาย ๆ ทาง อาทิ อีเมล เว็บบอร์ด และสามารถสืบค้นข้อมูลและข่าวสารต่าง ๆ รวมทั้งคัดลอกแฟ้มข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ได้

.Mozilla Firefox

มอซิลลา ไฟร์ฟอกซ์ (อังกฤษ: Mozilla Firefox) รู้จักในชื่อ ไฟร์ฟอกซ์ เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่สามารถใช้ได้ในหลายระบบปฏิบัติการ พัฒนาโดยมูลนิธิมอซิลลาและอาสาสมัครอีกหลายร้อยคน ปัจจุบันอยู่ใต้การดำเนินงานของบริษัท มอซิลลา ปัจจุบันไฟร์ฟอกซ์เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่นิยมอันดับ 3 รองจากอินเทอร์เน็ต เอกซ์พลอเรอร์และกูเกิล โครม และเมื่อแบ่งตามรุ่นของแต่ละเบราว์เซอร์ ไฟร์ฟอกซ์ รุ่น 3.5 เป็นเบราว์เซอร์ที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก[7][8] ไฟร์ฟอกซ์มีส่วนแบ่งในตลาดเว็บเบราว์เซอร์ทั่วโลกร้อยละ 24.61[9] และมีส่วนแบ่งในตลาดเว็บเบราว์เซอร์ในประเทศไทยร้อยละ 15.28[10] (ข้อมูลเมื่อธันวาคม พ.ศ. 2552)
ไฟร์ฟอกซ์ใช้เกกโกตัวเรนเดอริงเอนจินโอเพนซอร์ซซึ่งจัดการตามมาตรฐานเว็บสอดคล้องกับทางดับเบิลยูธรีซีกำหนดไว้ และเพิ่มคำสั่งพิเศษเข้าไป คำสั่งไฟร์ฟอกซ์เป็นซอฟต์แวร์ที่เปิดให้โปรแกรมเมอร์ที่เรียกว่า "แอด-ออนส์" ทำงานร่วมกับตัวโปรแกรม โดยปัจจุบันมีมากกว่า 2,000 ตัว[11] โดยตัวที่นิยมมากที่สุดตามลำดับคือ ฟอกซีทูนส์ (ควบคุมโปรแกรมเล่นเพลง) สตัมเบิลอัปออน (ค้นหาเว็บไซต์) แอดบล็อกพลัส (บล็อกโฆษณา) ดาวน์เดมออล! (ดาวน์โหลด) และเว็บเดเวลอปเปอร์ (เครื่องมือสำหรับทำเว็บ) [12]
ไฟร์ฟอกซ์ทำงานได้ในหลายระบบปฏิบัติการรวมถึง วินโดวส์ แมคโอเอสเท็น ลินุกซ์ รุ่นปัจจุบันคือรุ่น 12.0 ออกเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555 ตัวโค้ดโปรแกรมเขียนขึ้นในภาษา C++ XUL XBL และ จาวาสคริปต์ โดยโค้ดทั้งหมดเปิดให้ใช้ฟรีภายใต้ลิขสิทธิ์MPL GPL / LGPL และ Mozilla EULA โดยที่ในรุ่นนี้ได้ทำารแก้Bugในรุ่น9.0ที่ทำให้เบราว์เซอร์Crashบนระบบปฏิบัติการหลักทั้งสามตัว ในกรณีที่ติดตั้งTools Barบางตัวลงไป



Google Chrome

กูเกิล โครม (อังกฤษ: Google Chrome) เป็นซอฟต์แวร์เว็บเบราว์เซอร์แบบโอเพนซอร์ซ พัฒนาโดยกูเกิล ใช้เว็บคิตเป็นเรนเดอริงเอนจินสำหรับวาดหน้าจอ และนำบางส่วนจากเว็บเบราว์เซอร์ไฟร์ฟอกซ์มาพัฒนาต่อ[1]
โครมมีให้ดาวน์โหลดเพื่อทดสอบใช้งานสำหรับวินโดวส์ และมีภาษาที่ให้ใช้ได้มากกว่า 50 ภาษารวมถึงภาษาไทย รุ่นสำหรับแมคโอเอส และ ลินุกซ์ นั้นกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งจะเปิดให้ทดสอบในอนาคต โครมเป็นตัวพัฒนาจากโค้ดของซอฟต์แวร์ โครเมียม ซึ่งใช้สัญลักษณ์เดียวกัน แต่คนละสี[2]


     Safari

4.               ซาฟารี (Safari) คือเว็บเบราว์เซอร์ที่พัฒนาโดยบริษัทแอปเปิล คอมพิวเตอร์ สำหรับเครื่องแมคอินทอช โดยมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Mac OS X รุ่น 10.3 เป็นต้นไป และสตีฟ จอบส์ ได้ประกาศในวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2550 เปิดตัวซาฟารีสำหรับวินโดวส์ แต่ปัจจุบัน ซาฟารีสำหรับวินโดวส์ได้ถูกยกเลิกการพัฒนาไปแล้ว
5.               หน้าตาของซาฟารีมีลักษณะสีเงินวาว (brush metal) เหมือนกับลักษณะของ ซอฟต์แวร์เล่นเพลง ไอทูนส์ ซาฟารีรุ่นที่สองเรียกว่า Safari RSS ใช้ได้กับ Mac OS X รุ่น 10.4 ขึ้นไป
6.              ซาฟารี ใช้ตัววาดหน้าเว็บชื่อ WebCore ซึ่งพัฒนามาจากตัววาดหน้าเว็บชื่อ เว็บคิต ที่พัฒนาต่อมาจาก KHTML ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการซอฟต์แวร์เสรี KDE      

Opera

โอเปร่า (Opera) คือชื่อซอฟต์แวร์ ที่รวมเว็บเบราว์เซอร์และโปรแกรมสำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ตอื่น ๆ พัฒนาโดยบริษัทโอเปร่า ประเทศนอร์เวย์ ในปัจจุบันโอเปร่าเป็นผู้นำในตลาดเว็บเบราว์เซอร์สำหรับโทรศัพท์มือถือ และพีดีเอ นอกจากนี้ยังถูกนำไปใช้ในระบบโทรทัศน์ที่มีการโต้ตอบระหว่างผู้ชม (interactive television, iTV) ในบางประเทศ เมื่อไม่นานนี้ บริษัทโอเปร่าได้ร่วมมือกับบริษัทอะโดบีซิสเต็มส์ ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ด้านการสร้างสรรค์สื่อ เพื่อรวมโอเปร่ากับโปรแกรมในชุด อะโดบีครีเอทีฟสวีท
และเมื่อ 20 กันยายน 2548 ทาง opera (Opera Software ASA) ได้เปิดให้ opera browser (เวอร์ชันสำหรับ desktop) เป็นซอฟต์แวร์ที่สามารถโหลดใช้งานได้ฟรี และไม่มี Ad Banner ใด ๆ ในตัวโปรแกรม สามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบ
ชุดโอเปร่าประกอบไปด้วย
·         โปรแกรมค้นดูเว็บ (เว็บเบราว์เซอร์)
·         โปรแกรมอีเมล (E-mail client)
·         โปรแกรมไออาร์ซี (IRC client)
·         โปรแกรมสมุดที่อยู่ (Address book)
·         โปรแกรมอ่านข่าวจากแหล่งข้อมูลอื่น (News aggregator)
·         โปรแกรมโอเปร่าวิจิท (Opera Widget)